Uncategorized

ธุรกิจร้านกาแฟ!! อาชีพอิสระที่น่าลงทุน

ธุรกิจร้านกาแฟ อาชีพอิสระที่น่าลงทุนมีอัตราการเติบโตรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เนื่องมาจากธุรกิจร้านกาแฟรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ สภาพดังกล่าวสร้างความคึกคักและตื่นตัวให้กับวงการธุรกิจส่วนตัวอย่างกาแฟเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน กระแสความนิยมการดื่มกาแฟของคนไทยก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมคนไทยนิยมดื่มกาแฟสำเร็จรูปกันเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันคนไทยได้หันมานิยมเข้าร้านกาแฟสดคั่วบดที่มีการตกแต่งร้านให้หรูหราทันสมัย สะดวกสบาย มีบรรยากาศที่รื่นรมย์สำหรับการดื่มกาแฟมากขึ้น เฉลี่ย 200 แก้ว/คน/ปี (ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปี 2555)

ธุรกิจร้านกาแฟ อาชีพอิสระที่น่าลงทุน




 

ขั้นตอนก่อนตัดสินใจทำอาชีพอิสระเปิดร้านกาแฟ




1.วางคอนเซ็ปส์หรือรูปแบบ ร้านกาแฟในฝันของผู้ทำอาชีพอิสระ ว่าอยากจะเปิด ร้านกาแฟ ในรูปแบบใด กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร สถานที่ใดบ้างที่ผู้ทำอาชีพอิสระอยากจะไปเปิด ร้านกาแฟ และต้องเดินทางสะดวก


ตัวอย่าง 1       – อยากเปิด ร้านกาแฟ แบบเคาน์เตอร์เล็กๆ แต่ไม่โนเนม ดูดีมีสไตล์

– เช่าพื้นที่หน้าร้าน

– หน้า ม.เอแบค, ม.ราม

– กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา คนทำงาน

– เดินทางได้สะดวกเพราะ บ้านอยู่แถวบางกะปิ


ตัวอย่างที่ 2       – อยากเปิดเป็น ร้านกาแฟ แบบมีพื้นที่นั่ง ขายวาฟเฟิลควบคู่ด้วย บรรยากาศคลาสิค ไม่หรูแต่ดูดี

– เปิดในห้าง ย่าน ฝั่งธนฯ

– กลุ่มเป้าหมาย ครอบครัว และคนทำงาน

– เดินทางสะดวก เพราะบ้านอยู่ฝั่งธน

2. สำรวจความพร้อมของตนเอง   พร้อมหรือยังกับทุ่มเทให้ร้านของผู้ทำอาชีพอิสระ มีเงินออมมากพอไหม และที่สำคัญมีเวลาให้กับธุรกิจกาแฟที่ผู้ทำอาชีพอิสระรักหรือยัง

3. หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟ   การหาข้อมูลนั้นอาจจะหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยอาจจะหาผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ หรือโดยการหาหนังสือเกี่ยวกับวิธีการชงกาแฟแบบต่างๆ การทำร้านกาแฟ สุดท้ายก็ลงเรียน ชงกาแฟ สัก 2-3 ที่ ก่อนไปเรียนก็ พยายามสร้างคำถามไว้ในใจว่าจะไปถามอะไรบ้างตอนเรียนนะ เพราะเหมือนกับเรามีความรู้อยู่ระดับหนึ่ง แล้วไปทบทวนเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้จริง ที่สำคัญอย่าอายครูและเพื่อนร่วมชั้นจะ จะไม่รู้วิชา ก็เหมือนกับ อายภรรยา ก็ไม่มีบุตรละ



4. ออกแบบร้าน และเริ่มก่อสร้าง ร้านกาแฟ ตามรูปแบบที่ผู้ทำอาชีพอิสระวางไว้ตั้งแต่แรก ที่สำคัญต้องกำหนดวันเปิดร้านให้ชัดเจน และทำตารางเพื่อเรียงลำดับหัวข้อต่างๆที่ต้องทำ เพื่อเป็นการวางแผนที่ดี

– ถ้าเป็นเคาน์เตอร์กาแฟ ธรรมดา ค่าเคาน์เตอร์ไม่ควรเกิน 50,000 บาท

– ถ้าเป็น ร้านกาแฟ งบประมาณในการก่อสร้าง ไม่ควรเกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด

5. การเลือกซื้ออุปกรณ์กาแฟ   หลายต่อหลายคนหมดค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อเครื่องชงกาแฟหลายแสน เปิดได้สักปีก็ปิดกิจการ ขายเครื่องคืนเหลือไม่กี่บาท หรือขายไม่ได้

การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์กาแฟนั้น เป็นสิ่งถูกต้องที่สุดว่าเครื่องชงราคาแพงจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดีด้วย แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขาย แก้วละ 20-35บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน ถ้าขายดี ก็โชคดีไป ถ้าขายไม่ได้ก็โชคร้าย


วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจ และกลุ่มลูกค้า เช่นจะขายสัก 30-35 ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็พอโอเค ถ้าจะขายสัก 40-50 บาทขึ้นก็ เครืองเป็นแสนเอาเลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่ละ

วิธีการบริหารร้านเบื้องต้นสำหรับอาชีพอิสระมือใหม่




สิ่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักในการทำอาชีพอิสระนี้คือ เจ้าของร้าน โดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นผู้บริหารเอง ทั้งนี้ ขอกล่าวในลักษณะที่ เจ้าของบริหารเอง หากเป็นเจ้าของจ้างคนอื่นมาบริหารหรือจ้างผู้จัดการร้าน และไม่เอาใจใส่ บอกได้เลย เตรียมตัวให้ดีกับปัญหาที่ตามมา นอกจากนี้เจ้าของร้านเองจะต้องมีความสุขกับอาชีพอิสระและการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อมและความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น มีทุนทรัพย์ (เงินลงทุน) ที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจส่วนตัว




สำรวจวัตถุดิบ เมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟมีหลากหลายเกรด อยู่ที่คุณจะเลือกใช้ ถ้าอยากได้คุณภาพ และรสชาติที่ดีก็ต้องใช้ของดีเกรดเอไปเลย แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือเรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้น ดังนั้นเจ้าของร้านกาแฟต้องปรับใช้เอาเองว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร จะได้เลือกใช้เมล็ดกาแฟได้อย่างเหมาะสม

สำรวจรสชาติของกาแฟ (Coffee)  ข้อดีคงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ เพราะต่อให้ร้านกาแฟสดของคุณดูสวยหรู บรรยากาศดีแค่ไหน แต่รสชาติแย่เหมือนน้ำล้างจาน ไม่นานก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านครับ ดังนั้นต้องปรับปรุงรสชาติให้ดีและมีมาตรฐานเข้าไว้


งบประมาณการลงทุนที่กำหนดเองได้



ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำอาชีพอิสระเปิดร้านกาแฟในรูปแบบ Stand Alone จะใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 300,000 ถึง 1,500,000 บาท ซึ่งโครงสร้างต้นทุนของร้านกาแฟรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือ

1. ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่ ค่าก่อสร้างออกแบบและตกแต่งสถานที่ ค่าวางระบบต่างๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ระบบเก็บเงิน) ค่าอุปกรณ์

2. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 10% ได้แก่ ค่าวัตถุดิบสินค้า ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ส่วนในการเปิดร้านรูปแบบอื่นๆ ก็จะราคาต่ำลงได้อีกหากผู้ลงทุนมีการวางแผนการตลาดที่ดี

การกำหนดราคาขาย



ราคาขายของกาแฟแต่ละถ้วย จะถูกกำหนดขึ้นจากต้นทุนบวกด้วยกำไรที่ผู้ทำอาชีพอิสระต้องการ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การตั้งราคาของผู้ทำอาชีพอิสระจะต้องคำนึงถึงราคาขายของผู้ทำอาชีพอิสระรายอื่นๆ ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกันที่มีในตลาดด้วย เช่น กรณีของร้านกาแฟตัวอย่างที่กำหนดไว้นี้ จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับบน ซึ่งราคาจำหน่ายกาแฟในตลาดระดับนี้ อยู่ที่ ประมาณ 45-65 บาท คิดเป็นราคาขายแก้วละ 55.00 บาท

ประเภทของกาแฟที่ควรมีในร้าน



เอสเพรสโซ คือ กาแฟที่ถูกเตรียมด้วยเครื่องเอสเปรสโซ แมชีน และใช้กาแฟคั่วระดับที่เข้มบดละเอียดให้รสชาติเข้มข้น นิยมใช้กาแฟอราบิก้า จะเสริฟในถ้วยขนาดเล็กไม่เกิน 1.5 ออนซ์ ซึ่งกาแฟเอสเปรสโซ่จะเป็นตัวเบสพื้นฐานในการชงกาแฟอื่นๆ

กาแฟอเมริกันโน่ คือ กาแฟ เอสเพรสโซ + น้ำร้อน

กาแฟลาเต้ คือ กาแฟเอสเพรสเข้มข้นประมาณ 1.5 ออนซ์ + นมร้อน ประมาณ 6 ออนซ์และแต่งด้วยฟองนมเล็กน้อย ด้านบน รสชาติจะหอมละมุ่นด้วยกลิ่นนมและกาแฟ

กาแฟคาปุชิโน่ คือ กาแฟเอสเพรสโซ + นมร้อน 1 ส่วน และฟองนม 1 ส่วน และนิยมโรยหน้าด้วยผงซินนาม่อนหรือผงช็อกโกแลต

กาแฟมอคค่า คือ เอสเพรสโซ่ น้ำเชื่อมช็อคโกแลต นมร้อน และปิดหน้าด้วย วิปปิ้งครีม แต่งหน้าด้วยผงช็อคโกแลต

กาแฟเฟรนเพรส คือ การชงกาแฟด้วยแก้ว French Press เวลา ดื่มจะต้องกดก้านกรองของแก้วลงก้านตะแกรงกรองจะแยกชั้นระหว่างน้ำกาแฟและผง กาแฟ ซึ่งวิธีการชงแบบนี้จะพบได้ตามร้านอาหาร โฮมเมท ตามสุขุมวิทหรือสีลม





ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.kingsmes.com/2015/03/my-coffee-shop.html

author-avatar

About Handy

Lorem Ipsum is simply dummy text of the printing and typesetting industry. Lorem Ipsum has been the industry's standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น