การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่เรียกว่าโปรโมชั่นร้านกาแฟนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำยอดขายหรือสร้างกลุ่มลูกค้าของร้านกาแฟ ซึ่งบางครั้งโปรโมชั่นที่เราทำไปนั้นก็ได้ผล บางทีก็ไม่ได้ผลหรือหากในกรณีเลวร้ายเลยก็คือ ทำโปรโมชั่นแล้วยิ่งขาดทุนหนักเข้าไปอีก ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ก็มีโปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการขายบางชนิดที่ทำแล้ว อาจจะดูแล้วโดนใจไม่มากไม่มายอะไรนัก หากแต่สามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือสร้างเป็นจุดเด่นของร้านได้เลยก็เป็นได้
ซึ่งทาง ชุมชนคนชอบกาแฟ ก็จะขอนำเสนอไอเดีย 3 วิธีการสร้างการส่งเสริมการขายแบบง่ายๆให้กับร้านกาแฟของคุณที่สามารถทำได้เลย ยังไงลองมาช่วยกันพิจารณาครับว่า tips เหล่านี้จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งลูกค้า ผู้ประกอบการและธรรมชาติมากน้อยขนาดไหน
1. นำแก้วมาเองได้ลด 2 บาท
รายการส่งเสริมการขายข้อที่ 1 นี้คือ เมื่อลูกค้านำแก้วมาใส่เอง อาจจะเป็นแก้วใบโปรดของลูกค้าเองหรือว่าเค้านำแก้วมาเองจากบ้าน ทางร้านจะลดราคาให้ 2 บาท (อาจจะลดราคาระหว่าง 2 – 5 บาท) ซึ่งดูแล้วอาจจะรู้สึกตลกว่า แหม…ลดตั้ง 2 บาทเหมือนทำเล่นๆจังเลย ซึ่งข้อนี้เป็นการส่งเสริมการขายแบบเชิงอนุรักษ์ครับ คือ ช่วยลดแก้วกาแฟที่เราต้องใช้หรือลดภาระที่เราต้องล้างแก้ว ซึ่งเหตุผลที่ลูกค้านำแก้วกาแฟมาเองนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากเค้าชอบที่จะดื่มกาแฟในแก้วโปรดของเค้า ดังนั้นไม่ว่าจะลดราคาหรือไม่ลดเค้าก็ยินดีใช้แก้วของเค้าอยู่แล้ว แต่ที่เราทำแบบนี้ก็เพราะว่า เราต้องการบอกลูกค้าว่า การที่เราลดราคาให้นั้นถือเป็นการส่งเสริมให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ คุณลูกค้าคนนั้นเป็นตัวอย่างที่ดี น่าชื่นชม ครับ
ตัวอย่างวิธีการพูด : “ลูกค้าคะ วันนี้นำแก้วมาเองทางร้านขอลดราคากาแฟให้ 2 บาทค่ะ ร้านเรามีนโยบายการลดขยะซึ่งช่วยลดภาวะโลกร้อน ขอบคุณมากนะคะ โอกาสหน้าเรียนเชิญใหม่ค่ะ”
2. จัดแพ็กเกจขายคู่
รายการส่งเสริมการขายข้อนี้ เป็นการนำเครื่องดื่มมาจัด แพ็กเกจขายคู่กับอาหารว่าง ขนม เบเกอรี่ ที่มีในร้านของเรา คอนเสปของวิธีนี้คือ เราจัดเครื่องดื่มคู่กับอาหารที่สามารถทานเล่นเบาๆได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเราอิ่มท้องด้วยอาหารเบาๆ หรือ มีของไว้ขบเคี้ยวเล่นไปด้วย โดยมากแล้วเวลาที่ลูกค้ามาดื่มกาแฟก็อาจจะอยากกินอะไรซักอย่างหนึ่งจำพวกขนม หรือ เบเกอรี่ แต่ในใจลูกค้าอาจจะคิดว่า…อื่ม…ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยหิว ไม่เป็นไรสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียวดีกว่า แต่ถ้าเราจัดแพ็กเกจเครื่องดื่มคู่กับของว่างได้แล้วนั้น จะเป็นการเพิ่มการตัดสินใจให้ลูกค้าซื้อแบบแพ็กเกจของเราได้
ตัวอย่าง เช่น นำเครื่องดื่ม สมมติ Iced latte ราคา 65 บาท + บราวนี่ 35 บาท ราคารวม 100 บาท เราก็นำมาขายแบบแพ็กเกจ ตั้งชื่อว่า “แพ็กคู่อิ่มสบายท้อง” ในราคา 95 บาท หรือ ชาร้อนราคา 35 บาท + เครปเค้ก 45 บาท ราคารวม 80 บาท เราก็นำมาขายแบบแพ็กเกจ อย่าลืมตั้งชื่อด้วยนะครับ “แพ็กเกจอิ่มคู่สุดคุ้ม” แล้วขายราคา 76 บาท เป็นต้น
วิธีการ
1. หาเครื่องดื่ม คู่กับของทานเล่น ซัก 2 – 3 คู่
เช่น เครื่องดื่มร้อน + ขนม, เครื่องดื่มเย็น + ขนม, เครื่องดื่มแบบปั่น + ขนม
2. ตั้งชื่อ
3. กำหนดราคา (ให้ต่ำกว่าซื้อแยก 2 – 5 บาท) หรือตามความเหมาะสม
4. วิธีการพูด “วันนี้ Iced latte ของที่ร้านมีแพ็กเกจขายคู่กับบราวนี่นะคะ ในราคา 95 บาท ไม่ทราบว่าจะรับคู่กันเลยมั้ยค่ะ อิ่มสบายท้องพอดีเลยค่ะ ^^”
5. เทรนวิธีการเชียร์ลูกค้าด้วยวิธีสุภาพให้พนักงานขายหรือตัวเราเอง
ซึ่งก็จะทำให้เรามี 3 แพ็กเกจ 3 ราคาให้ลูกค้าได้เลือกเช่น อิ่มสุดคุ้ม 65 บาท, อิ่มสบายท้อง 75 บาท, อิ่มทั้งวัน 95 บาท เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
1. ขายกาแฟใน 1 เดือน ได้ 400 แก้ว ขนมได้ 40 ชิ้น แบบแยกกัน
2. ขายกาแฟอย่างเดียวใน 1 เดือนได้ 350 แก้ว ขนมได้ 35 ชิ้น แบบแพ็กเกจได้ 19 แพ็กเกจ
ซึ่งเราสามารถพิจารณาได้ว่าอย่างไหนคุ้มค่า โดยคำนวณจากต้นทุนและรายการขายของคุณดูครับว่า โอกาสเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน
3. สมาชิกลด 10 เปอร์เซ็นต์
สร้างบัตรสมาชิกของร้านกาแฟของเราโดยจะมีการลดราคาลงตามเปอร์เซ็นต์ที่เรากำหนด ซึ่งเป็นการได้รับส่วนลดในทันทีที่ลูกค้าซื้อกาแฟของเรา
สรุป : จาก 3 วิธีข้างต้นพบว่าส่วนมากจะเป็นการลดราคาแทบทั้งสิ้นซึ่งจะเป็นอัตราเท่าไหร่นั้นก็อยู่ที่เราต้องคำนวณราคา ต้นทุนอีกที แต่ถึงอย่างไรถ้าการทำการส่งเสริมการขายนั้นช่วยให้เราสามารถระบายสินค้าหรือขายได้เร็วขึ้นแต่กำไรต่อแก้วอาจจะลดลงไปนิดหน่อยก็ถือว่ายังโอเคอยู่ครับ
แต่ประเด็นที่ผมจะเน้นเลยคือ 3 วิธีเหล่านี้มีผลทันที ลูกค้าได้ประโยชน์ทันที โดยไม่ตองรอเวลาหรือรอสะสมแต้มใดๆ ติดป้ายบอกให้ชัดเจนเท่านี้ก็สามารถลองทำกันได้เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :http://www.thaicoffeelove.com/